วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

ราตู ชะฮาดะห์ : เกอลัวระกา บาฮาเกีย



เพิ่มคำอธิบายภาพ
ราตู ชะฮาดะห์ คือคณะนักร้องประสานเสียงเพลงอนาซิด (Nasyid) จากจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกหญิงจำนวน 4 คน ผู้ฟังหลายคนกระซิบมาว่าเป็นคณะอนาซิดดาวรุ่งพุ่งแรงในช่วง 2-3 ปีนี้ สำหรับเพลงเกอลัวระกา บาฮาเกีย (Keluarga Bahagia) จัดอยู่ในประเภทเพลงป๊อปอนาซิด (Pop Nasyid) หรือเพลงอนาซิดร่วมสมัย แตกต่างจากเพลงอนาซิดแบบดั้งเดิม ที่มีเพียงเสียงร้อง (Vocal) แต่ไม่มีเสียงดนตรี หรืออนุโลมได้เฉพาะเสียงกลองหน้าเดียว เช่น กลองรำมะนา เป็นต้น คำร้องของเพลงนี้ใช้ภาษามลายูกลาง (ภาษามาเลเซีย) สำหรับเพลงนี้ เมื่อได้ฟังแล้วอาจรู้สึกคุ้นหูขึ้นมาทันที ใช่แล้วครับ ! หลังจากนึกอยู่นาน มันคือทำนองเพลงลูกทุ่งนั่นเอง เพลงอนาซิดที่ใช้ทำนองเพลงลูกทุ่งนี้ค่อนข้างแปลกใหม่ คงมีแต่เพลงอนาซิดในประเทศไทยเท่านั้นกระมัง เพราะจากประสบการณ์เท่าที่ฟังเพลงอนาซิดของผม ทำนองเพลงอนาซิดส่วนใหญ่เอามาจากเพลงอินเดียบ้าง อาหรับบ้าง หรือจากมาเลเซียบ้าง สำหรับเพลงนี้ก็กลมกล่อมลงตัวดีครับ วันหน้าผมจะพยายามนำเสนอเรื่องราวกับวงราตู ชะฮาดะห์ อีกต่อไป

มะเยะ อาเนาะซีงอ: ดูนียอ ซาแม มอเดน ดาฆะ ดะห์ ยาดี บานา


ต้องขออภัยผู้ติดตามบล็อคคนรักเพลงมลายูทั้งหลาย ที่ผมหายหน้าหายตาไปนานมาก ก็ไม่รู้จะเขียนอะไรดี ทั้งนี้ มีเรื่องราวมากมายที่ต้องทำและคิด จึงไม่ได้แวะเวียนมาอัพเดตเรื่องราวใหม่ ๆ เลย แต่วันนี้มีโอกาสเปิดเว็บไซต์ยูทูปเที่ยวตามฟังเพลงดิเกร์มิวสิคของ "มะเยะ อาเนาะซีงอ" จึงใคร่อยากเขียนถึงศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้สักหน่อย แต่นี่ก็เป็นเพียงเกล็ดข้อมูลเล็ก ๆ เท่านั้นนะครับ ถ้าผู้อ่านท่านไหนสนใจเรื่องราวของมะเยะละก็ สามารถย้อนกลับไปอ่านในหน้าก่อน ๆ ของบล็อคได้

อัลบั้มเพลงชุดนี้ของมะเยะ น่าจะเป็นอัลบั้มท้าย ๆ ก่อนเขาจะเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2536 บันทึกเสียงที่ห้องบันทึกเสียง "แกรมม่าร์ เร็คคอร์ด" อดีตสตูดิโอบันทึกเสียงที่ได้ผลิตศิลปินนักร้องชายแดนใต้จำนวนมากมาย และเจ้าของสตูดิโอนี้ก็คือ "แบเล็ง" หรือเฮียคำรณ จรรโลงศิลป นายทุนผู้มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการปลุกปั้นนักร้องมลายูในจังหวัดชายแดนใต้ จนสามารถก้าวขึ้นมาสู่จุดนี้ได้ แกเพิ่งเสียชีวิตไปตอนต้นปี พ.ศ. 2555 นี้เอง

สำหรับเพลงในอัลบั้มชุดนี้ของมะเยะ มีเพลงหนึ่งที่น่าสนใจอย่างมาก คือเพลง "ดูนียอ มอเดน" หรือแปลว่า "โลกสมัยใหม่" คำร้องของเพลงขึ้นต้นว่า "ดูนียอ ซาแม มอเดน ดาฆะ ดะห์ ยาดี บานา" ซึ่งแปลตามตัวอักษรว่า "ในโลกสมัยใหม่ บ้านนอกกลายเป็นเมือง" จากนั้นเรื่องราวในเนื้อร้องเท่าที่ผมฟังดู ก็พอจะสรุปได้ว่า เพลงพูดถึงความเป็นสมัยใหม่ที่เข้ามากระทบกับชีวิตของคน [มลายู] ในท้องถิ่น และความเป็นสมัยใหม่นี่แหละที่ทำให้ผู้คนเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปแต่งตัวเลียนแบบดาราบ้าง ตามแฟชั่นต่าง ๆ บ้าง สิ่งนี้แหละที่ทำให้คนหลงลืมตัวเอง จนกระทั่งลืมนึกว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน ในเพลงบอกอีกด้วยว่า คนเหล่านี้เป็นพวกที่น่าขำขัน บลา ๆ ๆ   

พูดถึงมะเยะแล้ว ชื่อนี้อยู่ในทำเนียบศิลปินดิเกร์บารัตทางฝั่งกลันตันโน่นด้วยนะ พรรคพวกแถวนั้นพูดถึงเขาว่า "ในยุค 1970 (หรือทศวรรษ 2510-2520) เพลงของมะเยะ แต่เป็นเพลงแนวดิเกร์บารัตหรือดิเกร์ฮูลูบ้านเรา ออกวิทยุบ่อยมาก ผู้ฟังรุ่นเก่า ๆ ของเขา ยังคงจดจำเขาได้เสมอ แม้ว่ามะเยะจะจากเราไปนานแล้วก็ตาม" สมัยก่อนมะเยะได้รับเชิญไปแสดงทางฝั่งประเทศมาเลเซียเสมอ ส่วนใหญ่ก็ไปแสดงแถวรัฐตอนเหนือนั่นแหละ นอกจากนี้ เขายังได้รับการบันทึกเสียงเป็นเทปคาสเซตอีกด้วย สำหรับเพลงดิเกร์มิวิสิคหรือคนที่โน่นเรียกว่า "ดิเกร์บารัตมอเดิน" (ผมขอแปลว่า เพลงดิเกร์บารัตสมัยใหม่) ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน.. วันนี้นึกได้เท่านี้ ค่อยมาเขียนใหม่วันหลังนะครับ


วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

มะเยะ อาเนาะซีงอ: โมเดิร์นดิเกร์บารัต

เพิ่มคำอธิบายภาพ
อัลบั้ม: Keleh Ta' Puas Keleh
ศิลปิน: มะเยะ อาเนาะซีงอ
รายชื่อเพลง:
Side A
01 Keleh ta' puas keleh
02 Anak gadis sekarang
03 Rakyat Kelantan
04 Pagar hati antara mata
05 Sambong lagi tet demo
06 Tahun baru bulan baru
07 Perang telok
Side B
01 Ma'af peminat
02 Mabok stuak
03 Jangan mangarju
04 Cukup sini dulu
05 Che Tima Bere
06 Jasa baik
07 Jaga trek kereta sewa

ไม่ได้เขียนอะไรเลยไปนานนม วันนี้ผมจึงใคร่ขอแนะนำอัลบั้มหายากชุดนี้ บันทึกเสียงที่สตูดิโอซัวรา เออมัส (Suara Emas) ในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ผมขอนำเสนอข้อมูลใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวศิลปินคนนี้ ผู้ซึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็น "ราชาเสียงทอง" เขาคือ "มะเยะ อาเนาะซีงอ" นั่นเอง ชุดนี้เป็นเพลงแนวดิเกร์ฮูลูหรือในฝั่งกลันตันของประเทศมาเลเซียนั้น เรียกว่า "ดิเกร์บารัต" (Dikir Barat) ศิลปะการแสดงพื้นบ้านที่ได้รับนิยมอย่างแพร่หลายมากที่สุดในกลันตัน

ค่อยเขียนต่อนะครับ ไปกินข้าวก่อน



วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

Family No. 1 ดะห์ กำปงปีแซ

เพิ่มคำอธิบายภาพ
อัลบั้ม: Family No. 1 ดะห์ กำปงปีแซ
ศิลปิน: ดะห์ กำปงปีแซ, อ. ซาลี, ฟูร์, กอน, และแอมมี่
รายชื่อเพลง:
01 กอเจาะ กอเจาะ (แอมมี่)
02 โรฮานา (ฟูร์)
03 ยันยี ปัลซู (ดะห์ กำปงปีแซ)
04 เปาะจิ มะนาเก (กอน)
05 ยาโตะห์ จินตา (อ. ซาลี)
06 ฮาตีมู ซอเลม (ฟูร์)
07 ซียา ปาเกา (กอน)
08 โดนียอ (ฟูร์)
09 บือดือดี (ดะห์ กำปงปีแซ)
10 กือจิ ฮาตี (กอน)
11 ฮารี มือนีเกาะห์ (อ. ซาลี)
12 นาเซะ บรูตง (ฟูร์)
13 จังหวัดนราธิวาส (กอน)

หลังจากหายไปกว่าสัปดาห์ ผมก็มีอัลบั้มเพลงชุดพิเศษจากครอบครัวราชินีเพลงมลายู "ดะห์ กำปงปีแซ" มาฝากกัน อัลบั้มเพลงชุดนี้ (ค.ศ. 2006/พ.ศ.2549) ทำออกมาในช่วงที่ความนิยมในแผ่นซีดีและวีซีดีเข้ามาแทนที่เทปคาสเซตเทคโนโลยีการบันทึกเสียงแบบเก่าที่ครองตลาดเพลงมลายู (เพลงดิเกร์มิวสิคและอื่น ๆ)ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มายาวนาน ในอัลบั้มนี้ดะห์ กำปงปีแซและอ. ซาลี สามีของเธอได้พยายามผลักดันทายาททั้งสามคนเข้าสู่วงการเพลง กล่าวได้ว่านี่เป็นครอบครัวนักดนตรีอย่างแท้จริง ทุกวันนี้เราสามารถพบทายาทของพวกเขาทั้งสามในไนท์คลับและงานรื่นเริงต่าง ๆ ที่เชิญพวกเขาไปทำการแสดง

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

มาซีเต๊าะ บูดี: Chalte Chalte

เพิ่มคำอธิบายภาพ
อัลบั้ม: Chalte Chalte ชุดที่ 3
ศิลปิน: มาซีเต๊าะ บูดี
รายชื่อเพลง:
หน้า A
01 Rukun Iman
02 ช้ำรักเมืองยะลา
03 Tiada Beramal
04 Marilah Adik
05 Ampunilah
06 Harapan Baru
07 Apa Salah Dirimu
08 Anak Tiri
หน้า B
01 Isdunia
02 Turutha To
03 Aja
04 Chalte Chalte
05 Sajna
06 Janji Jaman

มาซีเต๊าะ บูดีกับอัลบั้มชุดที่ 3 ของเธอ (บันทึกเสียงในระบบดอลบีที่จะตัดเสียงรบกวนขณะทำการบันทึกเสียง) ที่ว่ากันว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ และได้สร้างชื่อเสียงให้เธอเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ในยุคนั้นช่วง 2530-2534) lesiy[เพลง Chalte Chalte เข้าใจว่าเป็นเพลงจากภาพยนตร์อินเดียเรื่อง "Chalte Chalte" ซึ่งออกฉายในปี คงศ. 1976 (พ.ศ. 2519) สำหรับในภาพยนตร์ เพลงนี้ขับร้องโดย Kishore Kumar นักร้องชาวอินเดียเพลงภาพยนตร์ผู้โด่งดังในอดีต

เพลงต่าง ๆ ในอัลบั้มชุดนี้ของมาซีเต๊าะนั้น ประกอบด้วยเพลงหลายประเภท เช่น เพลงลูกทุ่ง (ช้ำรักเมืองยะลา) เพลงดิเกร์มิวสิค (เพลงภาษามลายู) และเพลงภาพยนตร์อินเดียหรือเพลงฮินดูสถาน (ในหน้า B ของเทปคาสเซต) บนปกเทปของอัลบั้ม Chalte Chalte ยังปรากฎนักดนตรีคนสำคัญ (คนที่เล่นคีย์บอร์ดไฟฟ้า-คนกลาง) ซึ่งมีบทบาทอย่างสำคัญในการปลุกปั้นนักร้องประดับวงการเพลงในจังหวัดชายแดนภาคใต้มามากมาย นั่นคือ "ฮาซัน ตานี" ผู้ซึ่งเป็นทั้งนักดนตรีและนักเรียบเรียงเสียงประสานในอาณาจักรความบันเทิงสมัยใหม่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านผู้ติดตามคงอยากลองฟังเสียงมาซีเต๊าะกันแน่ แต่คงต้องอดใจรอไปก่อน เพราะตอนนี้ผมยังไม่รู้วิธีที่จะบันทึกเสียงซึ่งมีแต่ในเทปคาสเซตอย่างไร แต่น่าจะไม่นานหรอกครับ

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

มะเยะ อาเนาะซีงอ: อาเนาะ กัมปง

เพิ่มคำอธิบายภาพ
อัลบั้ม: อาเนาะ กัมปง
ศิลปิน: มะเยะ อาเนาะซีงอ
รายชื่อเพลง:
หน้า 1
01 กูลา อีแก ปูยู*
01 กือเล๊ะห์ ตะ ปูวัส กือเล๊ะห์
02 ดือแรยา แกตอ
03 อาเนาะ กัมปง
04 ตาโกะ อามอ ตะ ปาแย
05 ปูลา ยือ ยาปี
06 ปือยาเกต อัสรามอ
07 สามอ กู รีดบ
หน้า 2
01 ซือบือลม ปาดามูเร๊ะ
02 ลูตุ กือรัส
03 ฮัรตอ จูรี
04 อากู ยูโย ปาดา อิสตรี
05 ซือยุม มานิ ชราจน มีซอ
06 ซาวด์คาราโอเกะ 1.40 นาที

"มาเยะ อาเนาะซีงอ" คือราชาเสียงทองคนแรกของวงการเพลงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนหน้าการขึ้นมาของบารูดิง แต่การจากไปอย่างรวดเร็วของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ในปี พ.ศ. 2536 ทำให้เขากลายเป็นตำนานนักร้องผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่ได้รับการพูดถึงน้อยมาก อีกทั้งแทบไม่มีการบันทึกชีวประวัติของศิลปินท่านนี้มากนัก อย่างไรก็ดี เสียงอันไพเราะของมะเยะนั้น ยังคงปรากฏในผลงานเพลงของเขาที่ยังพอหาฟังได้ในปัจจุบัน แม้ว่าเขาออกเทปคาสเซตเพลงในแนวดิเกร์มิวสิคกับบริษัทซาวด์สตาร์เพียงสามอัลบั้มเท่านั้น มะเยะ อาเนาะซีงอ คือ "ตูแฆกาโระ" หรือคนขับร้องเพลงดิเกร์ฮูลูที่มีชื่อเสียงอย่างมากนับตั้งแต่ทศวรรษ 2510 เป็นต้นมา และอาจเป็นศิลปินชาวมลายูจากนราธิวาสคนแรกที่ได้รับการบันทึกเสียง แต่ในอัลบั้มเพลงดิเกร์มิวสิคนี้รับอิทธิพลจากเพลงป๊อปอินโดนีเซีย (pop Indonesia) และเพลงลูกทุ่งของไทยอย่างชัดเจน


* สำหรับเพลง "กูลา อีแก ปูยู" (แกงปลาหมอ) ซึ่งถูกใส่เพิ่มมาใหม่ในเพลงชุดนี้ เป็นเพลงที่ร้องในภาษาถิ่นกลันตัน-ปัตตานีด้วยทำนอง (melody) เพลง "Janewo Zara" จากภาพยนตร์อินเดียเรื่อง Dosti (เพื่อนแท้ ) ที่ออกฉายในปีพ.ศ. 2503 (1960) ต้นฉบับเพลงกูลา อีแก ปูยู นี้ถูกขับร้องในแนวดิเกร์ฮูลูโดย "ตูแฆกาโระ" ผู้หญิงจากกลันตันที่ชื่อว่า "ฟารีดา บ็อบบี้" แต่ว่ากันว่าเวอร์ชั่นของมะเยะนั้นไพเราะและได้รับพูดถึงกันมากที่สุด โดยเคยออกผ่านคลื่นวิทยุท้องถิ่นในกลันตันช่วงทศวรรษ 2510 (1970) อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ เรายังไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นพอให้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว (ผมจะเขียนถึงเพลงกูลา อิแก ปูยู เพิ่มเติมในภายหลัง)

บารูดิง & ซารีฟะห์: คอนเสริตดิเกร์ ชุด 2

เพิ่มคำอธิบายภาพ
อัลบั้ม: บารูดิง & ซารีฟะห์ คอนเสิร์ตดิเกร์ ชุด 2
ศิลปิน: บารูดิง & ซารีฟะห์
รายชื่อเพลง:
หน้า 1
01 บีนิง บารู
02 ฆีลอกะ ออแฆ บูแย
03 บูงอ ลายู
04 มารือ ดูลู
05 บอมอ กาปง
06 มาโบ๊ะ ออแฆ บีเล๊ะ
07 กาลู กือแนกะ อามอ
08 ชายลูปอ
หน้า 2
01 มาอะ ซึกาลี
02 มานอ กาตอ ซาแย
03 นาซิ ปือนะ บูดู
04 สุงาโกลก
05 อากู รินดู
06 อากู บือยันยิง
07 ตีนอ ลาวา

บารูดิงในวัยหนุ่มและซารีฟะห์อดีตภรรยาของเขา (ปัจจุบันนี้ซารีฟะห์เลิกร้องเพลงแล้ว) ทั้งสองออกเทปคู่กันเป็นชุดที่ 2 ซึ่งออกมาประมาณช่วงต้นทศวรรษ 2530 บารูดิงโลดเล่นอยู่ในวงการเพลงมานานกว่า 30 ปี โดยเริ่มต้นอาชีพร้องเพลงในฐานะ "ตูแก กาโระ" (Tukang Karut) ของคณะดิเกร์ฮูลูในนราธิวาส ต่อมา เขาได้หันไปร้องเพลงดิเกร์มิวสิค ซึ่งก็ได้ทำให้บารูดิงกลายเป็นที่ยอมรับของแฟนเพลงชาวมลายูในจังหวัดชายแดนภาคใต้เสมอมา กระทั่งเขาได้รับการยกย่องว่าเป็น "ราชาเสียงทอง" ของวงการเพลงดิเกร์มิวสิคอย่างไม่มีใครเทียบได้ บารูดิงออกอัลบั้มทั้งในแนวดิเกร์ฮูลูและดิเกร์มิวสิคในรูปแบบเทปคาสเซต ซีดีและวีดีซี โดยทำการบันทึกเสียงในไทยและในมาเลเซีย (กลันตัน) รวมทั้งสิ้นกว่า 77 อัลบั้ม นอกจากนั้น มีการกล่าวกันว่าเพลงของบารูดิงนั้นเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาเปอมินัท (ผู้ฟัง) ที่เป็นผู้ชายอย่างมาก เนื่องจากมีเนื้อร้องเป็นที่ถูกอกถูกใจผู้ฟังชายมากกว่าผู้หญิง โดยเนื้อร้องส่วนมากก็มักจะเกี่ยวกับการหยอกล้อผู้หญิง การผิดหวังในความรัก เรื่องตลกหยาบโลน และความยากลำบากในชีวิต ทุกวันนี้ บารูดิงในวัย 57 ปี ยังคงรับงานแสดงอยู่บ้างตามงานแต่งงานและงานรื่นเริงต่าง ๆ

เปาะเต๊ะ กูแบอีแก: ในวันที่กลับคืนสู่ความเมตตาของพระเจ้า

สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน หลายปีมานี้ผมไม่ได้เข้ามาเขียนอะไรใหม่ ๆ เกี่ยวกับเพลงมลายูเลย เนื่องจากมีพันธกิจมากมายที่ยังทำไม่เสร็จ  อย่างไรก็ตาม เ...